พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่และแถลงนโยบายรัฐบาล ว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่ง และได้รับพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในกระแสรับสั่งบางข้อความ ตนรับเอาเป็นพระบรมราโชวาทด้วย และจะตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ในกรอบหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ซึ่งวันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการเป็นตัว จะมุ่งเน้นในมิติของความมั่นคงเป็นหลัก ในส่วนเรื่องอื่นให้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะมอบหมายให้กระทรวงกลาโหมดำเนินการ

พลเอกณัฐพล ยังระบุว่าได้มอบหมายให้พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ หลังเกิดกรณีทหารกัมพูชาทำยิงปืนที่ช่องภูผี
ซึ่งเป็นการยั่วยุไม่ทำตามข้อตกลง ของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชาหรือ GBC และรอให้รัฐมนตรีช่วยว่าการฯเดินทางกลับมา

ก็จะมีการพูดคุยกรอบอำนาจหน้าที่ในการทำงานอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับยังระบุว่า พี่ชายของพลโทอดุลย์ ก็เป็นเพื่อนของตน การทำงานจะราบรื่นอยู่แล้ว
อีกทั้งยังเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 สามารถเข้าใจปัญหาในพื้นที่ได้ดี ซึ่งจะทำให้ตนทำงานได้ง่ายขึ้น

พลเอกณัฐพล ยังระบุอีกว่า ในส่วนของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ไม่จำเป็นต้องมีแล้ว เนื่องจากปัจจุบันมีรัฐบาล ครบ 36 คน
ซึ่งต่อไปจะพาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จะทำหน้าที่สื่อสารไปยังประชาชน โดยมีนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง และถือเป็นจังหวะที่ดี

เพราะนายกรัฐมนตรียังนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะสามารถ ทำให้งานที่เกี่ยวข้อง ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหมสอดคล้อง
และสามารถแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงได้เป็นอย่างดี ในขณะที่เรื่องเศรษฐกิจ มีทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว กระทรวงกลาโหมได้เตรียมนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในช่วง 4 เดือนของรัฐบาลนี้

เน้นในเรื่องการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ชายแดนไทย - เมียนมา ซึ่งมีการปิดด่านผ่านแดนถาวร
ตั้งแต่ท่าขี้เหล็ก สิงขร ระนอง ซึ่งต้องอยู่ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร และความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยพิบัติ

โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งตนได้รับปากเอาไว้ว่าปีนี้จะต้องไม่เหมือนปีที่แล้ว และปัจจุบันได้มอบหมายให้กรมการทหารช่างเตรียมการทำพนังกั้นน้ำ
ซึ่งตนเตรียมจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้วยตัวเอง ซึ่งตนคงจะเน้นย้ำใน 4 เรื่องนี้ใน 4 เดือน โดยได้เสนอเป็นนโยบายให้รัฐบาล ว่าขอเอาเรื่องสำคัญ

นอกจากนี้ในห้วงเวลาดังกล่าวจะต้องมีการพิจารณาคำของบประมาณปี 2570 ด้วย โดยจะใช้สมุดปกขาว ของกระทรวงกลาโหมที่มีอยู่
ในการพิจารณาคำขอในปีต่อไป ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 กันยายนนี้ มีไม่มากเนื่องจากมีเวลาเพียงแค่ 4 เดือน ต้องทำให้ได้ เพราะหากออกนโยบายไปมากแล้วทำไม่ได้จะถูกตำหนิ

ขอบคุณข้อมูล: amarintv
บทความน่าอ่าน
ไชยชนก สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง สินบนสแกมเมอร์ 40 ล้าน
ทบ.เปิดตัวแม่ทัพคนใหม่ แม่ทัพไก่-แม่ทัพเติ่ง เผยดีกรีสุดว้าว
หมอเผยเคสสุดหิน ผ่าตัดหัวใจคนไข้สูงอายุ งานสุดท้ายในชีวิตราชการ
รู้ตัวแล้ว โครงกระดูกปริศนาบนตึกร้าง ฟังญาติเล่ายิ่งตกใจ
ส่องเลข นายกฯอนุทิน หลังขับเครื่องบินส่วนตัวทำภารกิจหัวใจติดปีก
พุทธิพงษ์ ถามตรงๆ คลั่งชาติหนักอะไรใคร ทำชาวเน็ตแห่เมนต์สนั่น
อ.เจษฎ์ ไขข้อสงสัย หินคล้ายงูยักษ์ จ.เพชรบูรณ์ เกิดจากอะไร
ธรรมนัส สวนเดือด แฉกลับ อนุสรณ์ กลางสภา
อนุทิน เดือด แฉเบื้องหลังถูกกดดันให้พ้น มท.1 สมัยรัฐบาลแพทองธาร
เปิดสาเหตุ หนุ่มราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเอง จนอาการสาหัส
รู้สาเหตุแล้ว ราคาทองคำพุ่งพรวด ทองแท่งทะยานทันตา
