จากสถานการณ์การแพร่ระบาดดควิด-19 หลายคนเข้าใจว่า ผู้ที่เคยติดเชื้อมาแล้วโอกาสที่จะติดซ้ำใหม่น้อยกว่าผู้ที่ไม่เคยติด โดยทางด้านของ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและ วัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่า
“นอกจากผลทางร่างกายในระบบการหายใจและผลทางจิตใจแล้ว ผู้ที่รอดหรือฟื้นตัวหลังจากป่วยด้วยโรคโควิด-19 ยังจะต้องเผชิญกับปัญหาความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ตามมา โดยเฉพาะโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (acute myocardial infarction)
และ โรคสมองขาดเลือด (ischemic stroke) ในระลอกนี้ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ประเทศไทยน่าจะมีผู้ป่วยทะลุหลักล้านได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ดังนั้นแพทย์ที่มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยจำนวนมาก นอกเหนือจากภาวะอุดตันของหลอดเลือดดำ

และนำไปสู่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดแดงปอดเฉียบพลัน (acute pulmonary embolism) ที่พบได้เนืองๆ กว่าโรคปอดอักเสบจากเชื้อโรคอื่น คงได้มีโอกาสพบภาวะแทรกซ้อนในระบบหัวใจและหลอดเลือด ทั้งในระหว่างที่ผู้ป่วยอยู่ในโรงพยาบาล

หรือหลังออกจากโรงพยาบาลไประยะหนึ่งแล้ว มีการศึกษาในเชิงระบาดวิทยาจากประเทศสวีเดน ที่มีระบบฐานข้อมูลสุขภาพของประชาชนในประเทศที่สมบูรณ์ครบถ้วน ได้ทำการติดตามผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 86,000+ คน พบว่ามีอัตราเสี่ยงอุบัติการณ์ (incidence rate ratio)
การเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันและสมองขาดเลือด อยู่ระหว่าง 3-7 เท่าเมื่อเทียบกับคนทั่วไป ภายในช่วง 2 สัปดาห์นับจากวันที่ตรวจพบเชื้อ (day of infection, DOI) หรือ วันที่เริ่มมีอาการ (day of symptom onset, DOS)
แล้วจึงลดลงเหลือประมาณ 2 เท่าในช่วงสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ถัดมา เหตุที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 คือ นอกจากทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานปกป้องตัวเองมากเกิน (cytokine storm)

แล้ว ยังทำให้เกิดความผิดปกติหลายอย่างของเซลล์ผนังหลอดเลือด (activation, injury, dysfunction, and apoptosis of endothelial cells) นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความผิดปกติที่ส่งเสริมในอีกหลากกลไกทั้ง เลือดแข็งตัวง่าย

เกล็ดเลือดถูกกระตุ้น และ ACE2 receptor downregulation (Lancet 2021; 398: 599-607) ในยามที่บ้านเมืองพึ่งพาภาครัฐไม่ค่อยได้ ประชาชนต้องดูแลปกป้องตัวเองและคนที่เรารักอย่างเต็มความสามารถ #เดือนสิงหาอย่าออกบ้าน”

ขอบคุณข้อมูล:นิธิพัฒน์ เจียรกุล