มิถุนายน 2, 2023

บิณฑ์ เคลียร์ปมเงินบริจาค ซื้อเสื้อสีชมพู 10 ล้าน

เป็นประเด็นที่กำลังพูดถึงกันอยู่ในตอนนี้ เมื่อทางบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ได้ออกมาไลฟ์สด ชี้เเจงเรื่องเงินบริจาคซื้อเสื้อสีชมพู หลังจากที่นายสันธนะ ได้ยืนหนังสือเรียกร้อง ให้พล.ต.อ. สุวัฒน์ สืบสวนพฤติการณ์เรียกรับเงินบริจาคของบุคคลที่มีชื่อเสียงรายหนึ่ง ซึ่งเเอบอ้างโครงการทำเสื้อสีชมพูของโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเเสวงหาประโยชน์ส่วนตน

ล่าสุด ทางบิณฑ์ได้ออกมาชี้เเจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ” ผมฟังเเล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะถึงไม่มีชื่อผม เเต่มีรูปผมหราอยู่ในนั้น คุณสันธนะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เเต่ไปร้องเรียนเรื่องเสื้อของโรงพยาบาลศิริราชถือว่าคุณสันธนะ ทำไม่ถูก เพราะคุณควรจะไปคุยกับเสี่ยโป้ ก่อนวันที่ 1 พ.ย. เสี่ยโป้โทรมาหาผมบอกว่าผมมีเงินให้พี่ 20 ล้านบาท ผมก็บอกว่าจะให้ผมเรื่องอะไร เสี่ยโป้บอกเผื่อพี่ต้องใช้เงินทำโน่นทำนี่ช่วยคน

ผมก็เลยตอบกลับไปว่าไม่เป็นไร เสี่ยโป้เลยบอกวันที่ 1 พ.ย.ผมไปเจอพี่นะ พอวันที่ 1 มาเจอกัน ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องเงิน 20 ล้านบาท ส่วนตัวผมเห็นว่าเสี่ยโป้นิสัยดี เพราะบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม1 ล้านบาท อีกทั้งยังบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยหลายครั้ง เเต่หลังจากวันที่ 1 ก็ไม่ได้เจอกันอีก วันหนึ่งมีผู้ใจบุญมอบเสื้อชมพูให้ 500 ตัว ผมก็ใส่ในวันที่ 1 พร้อมเเจกจ่ายให้กับคนที่มาร่วมงาน

จากนั้นคุณนิรันดร ซึ่งเป็นเจ้าของเสื้อสีชมพู โทรมาหาผมเเล้วบอกเห็นทีมงานใส่เสื้อสีชมพู พอดีมีเสื้อสีชมพูที่สั่งทำไว้ 3 เเสนตัว เเต่ยังไม่ขาย สามารถมอบให้พี่บิณฑ์ 5 พัน ถึง 1 หมื่นตัว เเต่ขอให้พี่บิณฑ์หานายทุนมาช่วยซื้อผมก็เลยนึกถึงเสี่ยโป้ ที่เคยบอกว่าจะเอาเงินมาช่วย 20 ล้านบาท ผมจึงโทรศัพท์ไปหาเเล้วบอกว่าเอาไหม ถ้าจะทำบุญก็ให้ช่วยซื้อเสื้อสีชมพูของคุณนิรันดร ซึ่งขายตัวละ 100 บาท เเล้วเอาไปเเจกจ่ายให้กับประชาชน

ซึ่งเสี่ยโป้ ตอบกลับมาว่าโอเค ผมจะช่วย 10 ล้านบาทเพื่อซื้อเสื้อสีชมพู 1 แสนตัว โดยจะโอนเงินครั้งละ 2 ล้านบาท 5 ครั้งเข้าไปทางมูลนิธิศิริราช เมื่อเสี่ยโป้ ตอบตกลง ผมก็เลยให้คุยกับคุณนิรันดร หลังจากตกลงเสร็จสรรพ เมื่อถึงเวลาที่คุณนิรันดร จะเอาเสื้อไปให้ที่มูลนิธิศิริราช ทางมูลนิธิบอกว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี ผมจึงโทรไปหาเสี่ยโป้ ซึ่งได้รับคำตอบว่าติดภารกิจเรื่องคดี จากนั้นผมก็พยายามติดต่อเรื่อยมาแต่ก็ติดต่อไม่ได้

ผมจึงบอกเสี่ยโป้ ว่าไม่เอาแล้วนะ เพราะผมรู้ว่าถ้าเสี่ยโป้ จะช่วย ก็คงโอนเงินไปที่มูลนิธิศิริราชเอง กระทั่งผ่านไป 1 อาทิตย์ คุณสันธนะ โทรมาหาผมแล้วบอกว่าผมไปบังคับเสี่ยโป้ ให้ไปซื้อเสื้อสีชมพู ผมจึงตอบกลับไปว่า ผมไม่ได้บังคับ ต้องไปถามเสี่ยโป้ เพราะเสี่ยโป้ รับปากเองว่าจะซื้อเสื้อ 1 แสนตัว ตัวละ 100 บาท แล้วจะโอนเงินเข้ามูลนิธิเอง ซึ่งวันนั้นคุณสันธนะ ก็คุยกับผมดี

แล้วจู่ๆ วันนี้คุณสันธนะ ไปยื่นหนังสือเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ ทำให้ผมเสียหาย ทำให้คนเข้าใจผมผิด ดังนั้นเรื่องนี้เสี่ยโป้ ต้องออกมา ไม่ใช่คุณสันธนะ ไปยื่นหนังสือแล้วทำให้คนเข้าใจผิด เรื่องนี้ผมฟ้องกลับคุณสันธนะ ได้ เพราะทำให้ผมเสียหาย คุณสันธนะ ต้องคุยกับเสี่ยโป้ เพราะเสี่ยโป้ เป็นคนที่ต้องการทำบุญเอง ที่สำคัญ คือ เสี่ยโป้ จดเลขที่บัญชีของมูลนิธิศิริราช ไป

เพราะฉะนั้นเงินจะไม่โอนมาที่ผม แต่จะโอนเข้ามูลนิธิศิริราช ผมไม่เกี่ยว คุณเป็นผู้ใหญ่หรือเปล่า มาทำแบบนี้เพื่ออะไร ผมไม่เคยทำความเดือดร้อนให้คุณสันธนะ และผมไม่เคยรู้จักคุณสันธนะ มาก่อน ผมทำงานช่วยเหลือสังคมมา 30 ปีไม่เคยมีอะไรด่างพร้อย เพราะฉะนั้นเสี่ยโป้ ต้องออกมาเคลียร์ความจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น”

ขอบคุณข้อมูล:บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์