ผู้ว่าฯสระแก้ว แจง 7 ข้อ กัมพูชารุกล้ำพื้นที่

หลายคนให้ความสนใจไม่น้อยเลยค่ะ สำหรับสถานการณ์เมื่อวาน (25ส.ค.68) ที่ชายแดนบริเวณ บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ได้มีชาวกัมพูชาบุกไปรื้อรั้วลวดหนามตามแนวชายแดน มีการตะโกนด่าทอและยั่วยุทหารไทยด้วยถ้อยคำหยาบคาย หวังให้เกิดการปะทะกัน

ต่อมา นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีพื้นที่กัมพูชารุกล้ำดินแดนไทย บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ดังนี้

1. ความเป็นมาของแปลงที่ดิน : พ.ศ. 2518-2522 เกิดสงครามภายในประเทศกัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาอพยพเข้ามาอยู่ที่บ้านหนองจาน UNHCR ได้ตั้งค่ายอพยพในพื้นที่ ภายหลังสงครามชาวกัมพูชาส่วนใหญ่กลับประเทศ แต่บางส่วนยังคงตั้งถิ่นฐาน และรุกล้ำดินแดนไทย ส่งผลให้ประชาชนไทยในพื้นที่ไม่สามารถทำกินในที่ดินของตนเองได้

2. ประเภทเอกสารสิทธิที่ดินโฉนดที่ดิน

– หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ น.ส.3 / น.ส.3 ก. : หนังสือรับรองการทำประโยชน์

– น.ส.2 (ใบจอง) : เอกสารอนุญาตให้เข้าครอบครองที่ดินชั่วคราว

– ส.ค.1 : แบบแจ้งการครอบครองที่ดินต่อนายอำเภอ (ปี 2497-2498)

3. ประเภทที่ดินที่ถูกรุกล้ำ ราษฎรมีหลักฐานเป็น ส.ค.1, น.ส.2, น.ส.3 และ ภบท.5 (ใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ – ไม่ใช่เอกสารสิทธิจากกรมที่ดิน)

4. หน่วยงานที่รับผิดชอบ พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อยู่ในความดูแลของสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ปราจีนบุรี)

5. การดำเนินการของทางราชการ จังหวัดสระแก้วดำเนินการรับลงทะเบียนราษฎร เพื่อสำรวจจำนวนผู้ถือครองที่ดินและเอกสารสิทธิ เพื่อนำไปสู่กระบวนการออกโฉนดที่ดินตามกฎหมาย