ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง สำหรับการทำนายของ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ โดยทางด้านของ ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท เปิดเผยผ่านเพจเฟซบุ๊ก สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์ วิเคราะห์เทคนิคของ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ไม่ใช่แค่พูดเก่ง แต่ยังใช้เทคนิคถามนำเพื่อชี้ทางให้คู่สนทนาตอบไปตามกรอบที่เตรียมไว้ ทำให้คนฟังรู้สึกว่าเขารู้จริงแม่นยำ

รวมทั้งยังกลายเป็นผู้ควบคุมบทสนทนาแทนผู้ถาม เทคนิคนี้ถูกนำไปใช้ได้ทั้งในวงการหมอดู ไปจนถึงการสอบสวนคดีจริงๆ “ดูหมอบี หลายเทป ทั้งใหม่เก่า ทั้งทายว่าเห็นผี ระลึกชาติ จนถึงสัมภาษณ์คุณหนุ่ม หรือ แก้ตัวกับนักข่าว

เค้ามีเทคนิคของ ที่ใช้คือ “ถามนำ” (leading questions) ก่อน [นอกจากการมีการหาข้อมูลคู่สนทนา] เพื่อทำให้คู่สนทนาหรือผู้ถูกถามเหมือนกับถูกชี้ทางให้ตอบไปตามกรอบที่เขาปูไว้ ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากให้คนพูดเรื่อง “แม่บ้าน” ก็อาจถามว่า

• “ที่บ้านมีใครทำกับข้าวให้ใช่ไหมครับ?”
• “ผู้หญิงที่บ้านชอบทำกับข้าวหรือเปล่า?”
จนอีกฝ่ายตอบว่า “ใช่ครับ แม่ทำ” แล้วก็จับประเด็นตรงนั้นมาใช้ต่อ เออ มัน ฉลาดวุ้ย คนถูกถาม ก็จะแบบ รู้จริงด้วย แม่นวุ้ย เวลาถูกไล่ถามในคดี ก็ ใช้แบบนี้ พอเอามาใช้ในบริบท คดีหรือการถูกซักถาม เทคนิคนี้จะกลายเป็น การย้อนกลับไปใช้คำถามนำแทนการตอบตรง ๆ

• แทนที่จะตอบแบบเปิดเผย → ใช้ถามนำคืนเพื่อตั้งกรอบ
• เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ถูกซักถาม” ไปเป็น “ผู้ควบคุมบทสนทนา”
• คนฟังจะเผลอหลุดเข้ามาเล่นในกรอบที่เขาตั้งไว้เอง

เช่น ถ้าโดนถามว่า
• “คุณรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ไหม?”
แทนที่จะตอบว่า “รู้” หรือ “ไม่รู้” → ใช้ถามนำกลับ เช่น
• “คุณหมายถึงวันที่มีคนนั้นอยู่ด้วยใช่ไหมครับ?”
• “ที่ว่ารู้เห็น หมายถึงเห็นด้วยตาเอง หรือหมายถึงได้ยินจากคนอื่น?”
ตรงนี้ทำให้คู่ถามต้อง “ปรับความหมาย” และอธิบายเพิ่ม → กลายเป็นว่า คนถามต้องตามเกมของเขา

เทคนิคนี้ ฉลาด เพราะปรับเกมส์
• เทคนิค “ถามนำก่อน” คือ ควบคุมทิศทางการสนทนา
• ช่วยลดแรงกดดันเวลาโดนไล่ถามตรง ๆ
• เป็นการ ซื้อเวลา และ เลี่ยงคำตอบที่เสียเปรียบ
• ใช้ได้ทั้งกับการสื่อวิญญาณ (สร้างบรรยากาศให้คู่สนทนา “ตกลงไปในกรอบ”) และการถูกซักถามจริง (กันตัวเองจากการถูกต้อนให้จนมุมเร็วเกินไป)

มันมีวิจัย ว่าคำถามนำแบบนี้ เปลี่ยนความทรงจำไปในทิศทางที่คนถามกลับต้องการได้ leading question ที่เปลี่ยนความทรงจำ (memory distortion) เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ดังที่สุดใน cognitive psychology และ forensic psychology

มันมีกลไกว่า ทำไมคำถามนำเปลี่ยนความทรงจำได้ เรียก Misinformation Effect เพราะคนเรามี “ช่องโหว่” ของความจำ คือ post-event information (ข้อมูลที่ได้รับหลังเหตุการณ์) สามารถ “เขียนทับ” ความทรงจำจริง

ถ้าได้รับคำถามนำหรือข้อมูลเสริมแบบชี้นำ → สมองจะ integrate เข้ากับ memory เดิม จนกลายเป็น “ความทรงจำใหม่” อีกกลไกนึงเรียก Source Monitoring Error คือ คนไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่า “ข้อมูลนี้มาจากการเห็นเอง หรือมาจากคำถาม/คำบอกเล่า” → ทำให้เชื่อมั่นว่าคือความจำของตนเอง

หมอดู หมอเดา นักหลอกล่อ ต้มตุ๋น หรือ เทคนิคที่ใช้ของพวก ทนายความ ก็ ใช้อันนี้แหละครับ [ขอเติมนะ บางคนบอก แม้น แม่น สิ่งลี้ลับ ไม่เคยเจอ ไม่ขอ comment นะ เรา ดู เท่าที่เราสังเกตเห็น จริง ไม่จริง ไม่รู้ ] ”
ขอบคุณข้อมูล: สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์
บทความน่าอ่าน
นางบี ตอบชัด รับได้มั้ยที่ลูกชายคบกับผู้หญิงลูกติด 3 คน
ฮือฮาภาพล่าสุด “พลโทหญิง มาลี” ลงพื้นที่น้ำท่วม
นิกกี้ ณฉัตร ตอบแล้ว หลังเห็นโมเมนต์ ก้อย-ท็อป
ฮันโซฮี คอนเฟิร์มรับบทนำ ประกบนักแสดงรุ่นใหญ่
กรมอุตุฯ เตือนฉบับสุดท้าย พายุบัวลอยพัดถล่ม
ป้าแจ๋ว ยุทธนา โพสต์แจงแล้ว หลังมีดราม่า เทียบซีรีส์ดังกับละครตัวเอง
โสภณ ซารัมย์ ประกาศชัดจุดยืนเรื่องกัญชา
แอนนี่ บรู๊ค เผยสาเหตุ นำซิลิโคนหน้าอกออก หลังอยู่ในตัวมา 20 ปี
ได๋ ไดอาน่า ถึงกับต้องคุมสติ หลังได้รับสายจากแม่
สื่อลือแรง นักแสดงตัวแม่ แยกทางสามี หลังอยู่กันมา 19 ปี
รู้สาเหตุแล้ว ราคาทองคำพุ่งพรวด ทองแท่งทะยานทันตา
