เรียกได้ว่ารัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ ยืนยันว่าจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอธิปไตย ตอบโต้สิ่งที่กัมพูชาเรียกร้องว่า “การกระทำเพียงฝ่ายเดียว” ของไทยในพื้นที่พิพาทบ้านจกเจยและเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย หลังจากที่ชาวกัมพูชาถือท่อนไม้เป็นอาวุธ บุกไปเผชิญหน้ากับทหารไทยที่บ้านหนองจาน

หน่วยงานโฆษกรัฐบาลกัมพูชาเปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนโดยใช้ทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ นับตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม

หลังการกระทำของฝ่ายไทยส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกัมพูชาที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน โดยได้ดำเนินการตอบโต้ผ่านหลายช่องทางพร้อมกัน ทั้งการทูต กฎหมาย และการเมืองระหว่างประเทศ

ตามแถลงการณ์ กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศได้ยื่นหนังสือประท้วงทางการทูต 3 ฉบับถึงประเทศไทย พร้อมทั้งหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือกับสหประชาชาติและองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชายังได้จัดให้คณะทูต ผู้แทนจากสหประชาชาติ และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) เดินทางไปเยี่ยมชมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดการประชุมสมัยพิเศษของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) อีก 4 ครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา ขณะที่สำนักเลขาธิการกิจการชายแดนได้ยื่นหนังสือประท้วงทางการทูต 3 ฉบับภายใต้กรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และหน่วยงานระดับจังหวัดในบันเตียเมียนเจยได้ยื่นหนังสือประท้วง 2 ฉบับถึงจังหวัดสระแก้วของไทย

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา (CHRC) ยังได้ร้องขอการแทรกแซงอย่างเร่งด่วนจากกลไกสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้รายงานพิเศษแห่งสหประชาชาติว่าด้วยที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ, สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ, คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR) และสถาบันอิสระอื่นๆ

รัฐบาลเน้นย้ำว่านายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต ได้นำประเด็นนี้เข้าหารือกับผู้นำระดับโลกด้วยตนเอง ทั้ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน, เลขาธิการสหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส และผู้นำมาเลเซีย ในการประชุมสุดยอดองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่เมืองเทียนจินเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อเรียกร้องให้มีการแทรกแซงและจัดตั้งกลไกตรวจสอบจากบุคคลที่สาม เพื่อให้การหยุดยิงมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์ พร้อมเรียกร้องให้หยุดการขยายพื้นที่ขัดแย้งและการขับไล่พลเรือน

นอกจากนี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชายังได้ยื่นเรื่องถึงกลไกสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและอาเซียน เพื่อขอให้เข้ามาตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ในขณะเดียวกัน สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ก็ได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในการประชุมกับผู้นำต่างประเทศเช่นกัน โดยเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างสันติตามกฎหมายระหว่างประเทศ

รัฐบาลกัมพูชาปิดท้ายแถลงการณ์ด้วยการตอกย้ำว่าการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน คือภารกิจสำคัญสูงสุดของรัฐบาลกัมพูชาทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

บทความน่าอ่าน
ไชยชนก สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง สินบนสแกมเมอร์ 40 ล้าน
ทบ.เปิดตัวแม่ทัพคนใหม่ แม่ทัพไก่-แม่ทัพเติ่ง เผยดีกรีสุดว้าว
หมอเผยเคสสุดหิน ผ่าตัดหัวใจคนไข้สูงอายุ งานสุดท้ายในชีวิตราชการ
รู้ตัวแล้ว โครงกระดูกปริศนาบนตึกร้าง ฟังญาติเล่ายิ่งตกใจ
ส่องเลข นายกฯอนุทิน หลังขับเครื่องบินส่วนตัวทำภารกิจหัวใจติดปีก
พุทธิพงษ์ ถามตรงๆ คลั่งชาติหนักอะไรใคร ทำชาวเน็ตแห่เมนต์สนั่น
อ.เจษฎ์ ไขข้อสงสัย หินคล้ายงูยักษ์ จ.เพชรบูรณ์ เกิดจากอะไร
ธรรมนัส สวนเดือด แฉกลับ อนุสรณ์ กลางสภา
อนุทิน เดือด แฉเบื้องหลังถูกกดดันให้พ้น มท.1 สมัยรัฐบาลแพทองธาร
เปิดสาเหตุ หนุ่มราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเอง จนอาการสาหัส
รู้สาเหตุแล้ว ราคาทองคำพุ่งพรวด ทองแท่งทะยานทันตา
