สระแก้วร่อนหนังสือด่วน ถึงกัมพูชา หลังเหตุบุกรุกชายแดน

โดยวันนี้ 11 กันยายน ทางด้าน ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ส่งหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจีย ประเทศกัมพูชา เพื่อเรียกร้องให้ยุติการกระทำที่ละเมิดกฎหมายอธิปไตยไทย และห้ามไม่ให้คณะ IOT ของกัมพูชาเข้ามาในเขตไทยโดยพลการ

หนังสือฉบับนี้ ระบุรายละเอียดเหตุการณ์ดังนี้

1. เหตุการณ์วันที่ 16 กันยายน 2568 พลเรือนกัมพูชาได้เข้ามาในเขตแดนไทย พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นเขตพิพาทและอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยพยายามรื้อถอนลวดหนามที่ฝ่ายไทยวางเพื่อป้องกันตนเอง ใช้ไม้เป็นอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทย และลักทรัพย์สินของทางราชการ ทั้งนี้มีทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่แต่ไม่ห้ามปรามพลเมืองของตน

2. เหตุการณ์วันที่ 17 กันยายน 2568 พลเรือนกัมพูชาจำนวนราว 200 คน บุกรุกเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วอีกครั้ง พร้อมรื้อถอนลวดหนามของฝ่ายไทย ใช้ไม้ ท่อเหล็ก และก้อนหินทำร้ายเจ้าหน้าที่ไทย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บหลายราย ฝ่ายไทยจำเป็นต้องใช้สิทธิในการป้องกันตัวตามความเหมาะสม แม้จะได้แจ้งให้ทหารกัมพูชาห้ามปรามประชาชนของตน แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด ๆ

3. การกระทำของคณะ IOT กัมพูชา ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 19.30 น. นายลุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจีย ได้นำคณะ IOT ของกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่อธิปไตยของไทยที่บ้านหนองหญ้าแก้ว โดยไม่ได้แจ้งฝ่ายไทยล่วงหน้า

การกระทำดังกล่าวละเมิดเงื่อนไขการปฏิบัติงานของ IOT ที่กำหนดชัดเจนว่าห้ามเข้าสู่ดินแดนของประเทศคู่กรณี และเป็นการแทรกแซงปัญหาชายแดนที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกลไก JBC และ GBC

จังหวัดสระแก้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยอย่างร้ายแรง ฝ่าฝืนกฎหมายอาญาไทย และละเมิดข้อตกลงทวิภาคี พร้อมทั้งละเมิควัตถุประสงค์ของคณะ IOT

จังหวัดสระแก้วจึงเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการดังนี้

1. ยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายของพลเรือนกัมพูชาในดินแดนไทยทันที

2. ให้ทหารกัมพูชา (ภูมิภาคทหารที่ 5) ควบคุมและห้ามปรามพลเมืองของตนมิให้ละเมิดกฎหมายไทยอีก

3. งดเว้นการส่งเจ้าหน้าที่หรือคณะ IOT เข้ามาในดินแดนไทยโดยพลการ

4. เคารพกลไก JBC และ GBC ในการแก้ไขปัญหาชายแดนตามที่ตกลงร่วมกัน

จังหวัดสระแก้วยังคงสงวนสิทธิ์ในการป้องกันอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ที่จะรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ และเอกภาพของอาเซียน