โดยวันนี้ 20 กันยายน 2568 ทางด้านของ เท้ง ณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “[ 4 เดือนต่อจากนี้คือโอกาสที่สำคัญที่สุด เปิดประตูสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หาทางออกจากมรดกคณะรัฐประหาร ]

วันนี้ผมมีโอกาสไปร่วมวงเสวนาหัวข้อ “รัฐบาลใหม่กับทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรผู้บริหารยุทธศาสตร์การสื่อสารมวลชนระดับสูง (บยสส.) ของสถาบันอิศรา ได้แลกเปลี่ยนความเห็นและบอกเล่าความตั้งใจของผมและพรรคประชาชน ในการตัดสินใจใช้อำนาจที่เรามีในฐานะพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ

ประเด็นสำคัญที่ผมเน้นย้ำ คือสังคมไทยวันนี้ไปไกลกว่านี้ไม่ได้ ถ้าเราไม่แก้ปัญหาการเมือง ซึ่งวันนี้ทุกคนคงเห็นตรงกันว่าหนึ่งในต้นตอสำคัญของปัญหาการเมืองมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 อันเป็นมรดกของคณะรัฐประหาร ดังนั้น การตัดสินใจของพรรคประชาชนในการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แม้ไม่ใช่ทางเลือกที่สมบูรณ์แบบ แต่เราเชื่อว่านี่คือ “ความเป็นไปได้” ที่มีอยู่ภายใต้ข้อจำกัด ในการนำไปสู่การยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน พร้อมกับเปิดประตูสู่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ที่ผ่านมาหลายคนมักถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้องหรือคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างไร ผมขอยกตัวอย่างที่ย้อนไปเพียง 2 ปีก่อนหน้านี้ หลังการเลือกตั้ง 2566 ชัดเจนที่สุดว่ารัฐธรรมนูญเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้เราไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลที่สะท้อนเจตจำนงของประชาชนที่สะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งได้ และเมื่อมีรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย นายกรัฐมนตรี 2 คนก็ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานจริยธรรม ซึ่งพรรคประชาชนยืนยันมาตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้ “นิติสงคราม” เช่นนี้

ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ทุกคนได้เห็นแล้วว่าไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นนายกฯ หรือพรรคไหนจะขึ้นมาเป็นแกนนำรัฐบาล นายกฯ และรัฐบาลนั้นไม่สามารถมีสมาธิในการแก้ปัญหาของประเทศและประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังไม่นับว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญตลอด 2 ปีที่ผ่านมา แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ที่เดิม

ดังนั้นการทำข้อตกลง (MOA) ของพรรคประชาชนจึงต้องการผ่าทางตันของประเทศ เป็นข้อเสนอแบบ “ปาท่องโก๋” ที่จะทำให้การยุบสภาเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกรัฐบาลที่มีความชอบธรรมทางการเมืองเข้ามาแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกัน จะเปิดทางสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนซึ่งเป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด ได้ร่วมกำหนดกติกาสูงสุดของประเทศ

เหตุผลที่ทำให้ผมมั่นใจว่าพรรคการเมืองต่างๆ จะเดินหน้าภารกิจนี้ไปกับพรรคประชาชน เพราะตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าถนนทุกสายมุ่งสู่การเลือกตั้ง ทุกพรรคย่อมต้องการคะแนนเสียงจากประชาชน ซึ่งสิ่งสำคัญและเป็นพื้นฐานที่สุดที่จะทำให้พรรคการเมืองได้รับความไว้วางใจจากประชาชน คือนักการเมืองต้องรักษาสัจจะ ไม่ตระบัดสัตย์

ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โมเดลการได้มาซึ่ง สสร. นั้น จุดยืนของพรรคประชาชนต้องการให้ สสร. ยึดโยงกับประชาชนมากที่สุดภายใต้กรอบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ พรรคการเมืองต่างๆ จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15 เข้าสู่สภาฯ และเราหวังว่าการพิจารณาวาระ 1 จะเกิดขึ้นก่อนสิ้นเดือนกันยายน

วันนี้ผมจึงขอยืนยันอีกครั้ง การตัดสินใจของพรรคประชาชนครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งอยู่บนการแสวงหาความนิยมหรือผลประโยชน์ส่วนพรรค แต่ตั้งอยู่บนการหาทางออกให้กับประเทศ เอาประเทศเป็นตัวตั้ง

ผมหวังว่าช่วงเวลาต่อนี้จากนี้ ทุกฝ่ายในสังคมไทยจะช่วยกันผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการรักษาสัญญาตาม MOA ทำให้ภารกิจที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในช่วงที่ผ่านมา สามารถเกิดขึ้นได้ ทำให้ “การเมืองแห่งความเป็นจริง” กับ “การเมืองแห่งความเป็นไปได้” มาบรรจบกันในคูหาเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น นี่คือโอกาสที่เราต้องช่วยกันทำให้ดีที่สุดครับ”
ขอบคุณข้อมูล: ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ – Natthaphong Ruengpanyawut
บทความน่าอ่าน
ไชยชนก สั่งสอบสวนข้อเท็จจริง สินบนสแกมเมอร์ 40 ล้าน
ทบ.เปิดตัวแม่ทัพคนใหม่ แม่ทัพไก่-แม่ทัพเติ่ง เผยดีกรีสุดว้าว
หมอเผยเคสสุดหิน ผ่าตัดหัวใจคนไข้สูงอายุ งานสุดท้ายในชีวิตราชการ
รู้ตัวแล้ว โครงกระดูกปริศนาบนตึกร้าง ฟังญาติเล่ายิ่งตกใจ
ส่องเลข นายกฯอนุทิน หลังขับเครื่องบินส่วนตัวทำภารกิจหัวใจติดปีก
พุทธิพงษ์ ถามตรงๆ คลั่งชาติหนักอะไรใคร ทำชาวเน็ตแห่เมนต์สนั่น
อ.เจษฎ์ ไขข้อสงสัย หินคล้ายงูยักษ์ จ.เพชรบูรณ์ เกิดจากอะไร
ธรรมนัส สวนเดือด แฉกลับ อนุสรณ์ กลางสภา
อนุทิน เดือด แฉเบื้องหลังถูกกดดันให้พ้น มท.1 สมัยรัฐบาลแพทองธาร
เปิดสาเหตุ หนุ่มราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเอง จนอาการสาหัส
รู้สาเหตุแล้ว ราคาทองคำพุ่งพรวด ทองแท่งทะยานทันตา
